นิทรรศการ “แช๊ะ เปลี่ยน ชีวิต” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย เว็บสล็อตแตกง่าย เป็นงานต่อยอดจากการประกวดภาพถ่าย “แช๊ะ เปลี่ยน ชีวิต” ที่จัดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา งานนิทรรศการดังกล่าวมุ่งหวังจะแสดงมุมมองที่สวยงามและน่ารักของสุนัขจรจัดที่ยังคงรอคอยบ้านหลังสุดท้ายอยู่ที่มูลนิธิฯและต้องการที่จะเปลี่ยนทัศนคติของคนทั่วไปเกี่ยวกับสุนัขจรโดยรวม ให้ได้เห็นว่าสุนัขจรนั้นก็มีความน่าเลี้ยง สดใส ร่าเริง และแสนรู้เช่นกัน
โดยผลงานที่จัดแสดงในงานนิทรรศการนี้มาจากผู้เข้าประกวดถ่ายภาพทั้ง 40 ชีวิต
ซึ่งแต่ละคนก็สะท้อนเรื่องราวผ่านเลนส์ออกมาในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน งานนิทรรศการดังกล่าวจะจัดแสดงตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2561 – วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561
โดยในวันแรก (27 กันยายน) จะมีการแถลงข่าวเปิดนิทรรศการ การประกาศรางวัลผู้ชนะการประกวดถ่ายภาพทั้ง 4 อันดับคือรางวัลเกียรติยศ (ขวัญใจกรรมการ) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และรางวัลชนะเลิศ พร้อมสัมภาษณ์แขกรับเชิญพิเศษ คุณเพชร บุญญาภาณิ์เบญจรงค์กุล และพบกับน้องหมาน้องแมวน่ารักๆ จากมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยที่กำลังหาบ้าน ซึ่งจะมาออกบูธให้ได้ทักทายกัน
ส.ต.ต. เนตรพิรุณ ยังได้กล่าวปิดท้าย ว่า การทำงานจิตอาสาของตนนั้นทำได้ใจ แต่ไม่หวังผลตอบแต่ การออกไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนแต่ละครั้งก็แค่ต้องการเห็นรอยยิ้มของคนที่ได้รับความช่วยเหลือยิ้มตอบกลับมาก็พอแล้ว และทุกครั้งคิดอยู่เสมอว่าถ้าคนที่ประสบเหตุเดินทางกลับถึงบ้านช้าคนที่รออยู่ก็จะรอด้วยความเป็นห่วง และกังวล จึงอยากช่วยให้เค้าสามารถเดินทางถึงบ้านได้เร็วที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้พ่อ – แม่ ไม่เคยสอนด้วยการบอกให้เราทำ แต่จะสอนโดยการทำให้ดู และทำมาตลอด
“พ่อเคยขับรับจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ผ่านมาพ่อจะไปส่งลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะมีเงินจ่ายค่าบริการหรือไม่ ถึงไม่มีจ่ายก็ไปส่งเพราะพ่อบอกว่าคนที่รอลูก หรือญาติกลับบ้านจะรอด้วยความหวังและรอด้วยความเป็นห่วง ตนได้รับการปลูกฝังเรื่องการช่วยเหลือมาจากครอบครัว และสานต่อสิ่งที่พ่อทำมาโดยตลอด
นายนรภัทร กล่าวภายหลังการลงสำรวจพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ กลุ่มอนุรักษ์ฯ ว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเซียล เกี่ยวกับกรณีที่มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งจะทำการขอสร้างท่าเทียบเรือหรือมารีน่าในพื้นที่ โดยอ้างว่ามีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เป็น นส.3 ก โดยชาวบ้านมีความเป็นห่วงว่า หากมีการอนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะส่งกระทบกับแนวปะการังในบริการดังกล่าว ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวก็ไม่ใช่ท่าเทียบเรือที่มีอยู่เดิม จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อ
หนุ่ม-สาวชาวเชียงใหม่ขับรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟริมถนนบายพาสดับคาที่
ภูเก็ต – หนุ่มใหญ่-สาวชาวเชียงใหม่ขับรถจักรยานยนต์มาจากนอกเมืองภูเก็ตเสียหลักชนเสาไฟฟ้าแสงสว่างริมถนนบายพาสช่วงขาเข้าเมืองดับคาที่ 2 ศพ เมื่อเวลา 05.45 น. วันนี้ (26ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าแสงว่าง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดที่บริเวณบริษัทแห่งหนึ่งถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาสฝั่งขาเข้า) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าบริษัทดังกล่าวขาเข้าตัวเมืองภูเก็ต บนพื้นหน้าร้าน พบศพ นายวัน ตะเปียว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/4 ม.4 ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อแขนสั้นสีเหลือง สวมกางขายาวสีกรมท่า โดยสวมเสื้อฝนสีแดงทับ ที่บริเวณศีรษะมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ห่างกันออกไปเล็กน้อยที่ริมถนน พบศพ น.ส.หมี่พา ตะเบเบอะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/4 ม.4 ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ สภาพนอนหงาย สวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาว ที่ศีรษะมีเลือดไหลนอนพื้น
นอกจากที่บริเวณกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ขพก 908 ภูเก็ต ล้มตะแคงข้างอยู่สภาพด้านหน้าได้รับความเสียหาย และที่เสาไฟฟ้าแสงสว่างมีร่องรอยการเฉี่ยวชน ทางพนักงานสอบสวนได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ พร้อมมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนทราบว่า นายวัน ตะเปียว เป็นผู้ขับขี่ ส่วน น.ส.หมี่พา ตะเบเบอะ ได้นั่งซ้อนท้าย โดยได้ขับมาจากนอกตัวเมืองภูเก็ตเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งผิวถนนเป็นเนินเล็กน้อยรถได้เสียหลักไปชนกันเสาไฟฟ้าแสงสว่างริมถนน ทำให้ทั้ง 2 คนเสียกระเด็นตกจากรถส่งผลให้เสียชีวิตทันที 2 ศพ
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และจะประสานให้ญาติมารับศพนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตในการสร้างท่าเรือต่อกรมเจ้าท่า หรือทางจังหวัดภูเก็ตแต่อย่างใด มีเพียงการยื่นเรื่องต่อสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อขออนุญาตจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยทราบจากทางชุมชนว่าการรับฟังความคิดเห็นดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง และ ตามหลักการแล้วกรณีที่เอกชนจะมีการดำเนินการใดๆ ในลักษณะเช่นนี้จะต้องมีการแจ้งให้นายอำเภอท้องที่ทราบ เพื่อที่จะมีการร่วมรับฟังข้อมูล รวมทั้งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงด้วย” สล็อตแตกง่าย